ยินดีต้อนรับสู่บล็อกค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 16

 วันพุธ ที่ 25 เมษายน 2561

เวลา 08.30-11.30 น.

_________________________________

ความรู้ที่ได้รับ
  • นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร



  • แจกรางวัลเด็กดี
  • นำเสนอ Model โรงเรียน

โรงเรียน จันทร์เจ้า




โรงเรียนอนุบาลพอเพียง


การประยุต์ใช้
     สามารถนำหลักการโครงสร้างการจัดตั้งสถานศึกษาเป็นแนวปฎิิบัติไปปรับใช้ได้จริงในารทำงานในอนาคต เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นถึงข้อแตต่างของระบบราชการได้ชัดขึ้น

การประเมินผล
  • ประเมินตนเอง   ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน
  • ประเมินเพื่อน   เพื่อนๆให้ความสนใจในเนื้อหาที่เรียน สอบถาม
  • ประเมินครูผู้สอน   อธิบายฟังเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้เสมอ
บันทึกการเรียนครั้งที่ 15

 วันพุธ ที่ 18 เมษายน 2561

เวลา 08.30-11.30 น.

_________________________________

ความรู้ที่ได้รับ
  • นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร




การประยุต์ใช้
     สามารถนำหลักการ แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานศึกษาไปปรับใช้ได้จริงในารทำงานในอนาคต เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นถึงข้อแตต่างของระบบราชการได้ชัดขึ้น

การประเมินผล
  • ประเมินตนเอง   ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน
  • ประเมินเพื่อน   เพื่อนๆให้ความสนใจในเนื้อหาที่เรียน สอบถาม
  • ประเมินครูผู้สอน   อธิบายฟังเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้เสมอ
บันทึกการเรียนครั้งที่ 14

 วันพุธ ที่ 11 เมษายน 2561

เวลา 08.30-11.30 น.

_________________________________

*** หมายเหตุ วันหยุดสงกรานต์


บันทึกการเรียนครั้งที่ 13

 วันพุธ ที่ 04 เมษายน 2561

เวลา 08.30-11.30 น.

_________________________________

ความรู้ที่ได้รับ
  • นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร



แนวทางการจัดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย


กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร

กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร
- ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านวิชาการในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น ทุกคน ทุกฝ่ายนับเป็นองค์ประกอบสำคัญ การเป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไป
ด้วยกัน อย่างไว้ใจและเชื่อว่าจะชี้แนะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องด้วยน้ำใจมิใช่อำนาจ คือ หนทางแห่งกัลยาณมิตร นักวิชาการ
นิเทศ ได้กล่าวเกี่ยวกับการนิเทศที่คำนึงถึงฐานวัฒนธรรมไทยว่า
- ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร
- ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ
- ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ
- ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน
- การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน

กัลยาณมิตร ๗ ประการในการนิเทศ
1. ปิโย - น่ารัก สบายใจ สนิทสนม ชวนให้อยากปรึกษา
2. ครุ - น่าเคารพ ประพฤติสมควรแก่ฐานะ อบอุ่น เป็นที่พึ่งปลอดภัย
3. ภาวนีโย - น่ายกย่อง / ทรงคุณความรู้ /ภูมิปัญญาแท้จริง และหมั่นปรับปรุงตนอยู่เสมอ
4. อตตา จ - รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าควรพูดอะไร อย่างไร เป็นที่ปรึกษาที่ดี
5. วจนก ขโม - อดทนต่อถ้อยคำ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษา / คำถามคำวิพากษ์วิจารณ์
6. คมภีรญจ กถ กตตา - แถลงเรื่องลึกล้ำได้ อธิบายเรื่องที่ยากให้ง่ายได้
7. โน จฏฐาเน นิโยชเน - ไม่แนะนำเรื่องเหลวไหล แนะไปในทางเสื่อม

บทบาทของผู้บริหารในการนิเทศ
-  กระบวนกัลยาณมิตร เป็นการปฏิบัติจริงในสภาพที่เป็นจริง ผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศต้องมีการปรึกษาหารือ ติดต่อสื่อสาร เยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยน
เรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาและให้กำลังใจกัน 
- ถ้าจะเปรียบผู้นิเทศก็เป็นเหมือนครูฝึก ( coach ) ของผู้สอน ที่จะต้องโดดลงไปร่วมคิดร่วมทำ มิใช่เพียงร้องบอกให้ผู้สอนลองผิด ลองถูก ตาม
ยถากรรม อาจต้องบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดุ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ 
-   การพบปะสนทนาเมื่อเวลานิเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ กรรมการศึกษา ชุมชนรอบๆสถานศึกษา จะได้ทราบทุกข์ สุข และก่อให้
เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐาน เพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานต่อไป
 “ คลินิกครู ” อาจมีลักษณะเป็นรายบุคคล เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มย่อย
ตามความสมัครใจ ครูที่เข้าพบเป็นผู้เปิดประเด็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มุ่งสนับสนุนในการพัฒนาบุคลากรในโรงเรียนโดยผู้บริหารต้องเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีโครงการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อปรับปรุงพัฒนา ซึ่งผู้บริหารอาจจัดระบบนิเทศ
เป็น 3 ลักษณะ คือ 
1.นิเทศการจัดบรรยากาศห้องเรียน
2.นิเทศการจัดการเรียนการสอน 
3.การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของครู

แนวทางการนิเทศ

1. สร้างความสัมพันธ์ แจ้งภารกิจและความมุ่งหมาย จัดเวลา กำหนดวิธีการทำงาน
2. จัดนิทรรศการทางวิชาการและสาธิตรูปแบบการสอน
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดบริการเอกสารทางวิชาการ
4. วางแผนร่วมกัน เพื่อศึกษาดูงาน
5. แนะให้ปฏิบัติตามสภาพจริง
6. พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบัติ และหาทางแก้ไขปรับปรุง
7. เข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส
8. นำเสนอผลงานในการประชุมปฏิบัติการ
9. วัดและประเมินผลงานกัลยาณมิตรนิทศ

สรุปประเด็นสำคัญ
      หลักการสำคัญ พึงตระหนักว่าการนิเทศนั้นมิใช่การสั่งการ ตรวจสอบ บังคับบัญชา มิใช่การนิเทศกระดาษ แต่เป็นการนิเทศคน กระดาษ เป็นแผนการสอน คะแนนผลสัมฤทธิ์ หรือโครงการ เป็นองค์
ประกอบที่แสดงร่องรอยการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุด ผู้นิเทศต้องนิเทศคน พูดคุยกับครู ดูพฤติกรรมของนักเรียน สังเกตบรรยากาศและความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้นั้นเพื่อเข้าถึงสถานภาพและปัญหา นำไปสู่แนวทางการนิเทศที่ถูกต้อง



การประยุต์ใช้
     สามารถนำหลักการ แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานศึกษาไปปรับใช้ได้จริงในารทำงานในอนาคต เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นถึงข้อแตต่างของระบบราชการได้ชัดขึ้น

การประเมินผล
  • ประเมินตนเอง   ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน
  • ประเมินเพื่อน   เพื่อนๆให้ความสนใจในเนื้อหาที่เรียน สอบถาม
  • ประเมินครูผู้สอน   อธิบายฟังเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้เสมอ
บันทึกการเรียนครั้งที่ 12

 วันพุธ ที่ 29 มีนาคม 2561

เวลา 08.30-11.30 น.

_________________________________

ความรู้ที่ได้รับ

  • ศึกษาดูงาน ณ  ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา

ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา
สถานที่ตั้ง : 673 ซอย อิสรภาพ 51 ถนน จรัญสนิทวงศ์ 
แขวง บ้านช่างหล่อ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700















การประยุต์ใช้
     สามารถนำหลักการ แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานศึกษาไปปรับใช้ได้จริงในารทำงานในอนาคต เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นถึงข้อแตต่างของระบบราชการได้ชัดขึ้น

การประเมินผล
  • ประเมินตนเอง   ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน
  • ประเมินเพื่อน   เพื่อนๆให้ความสนใจในเนื้อหาที่เรียน สอบถาม
  • ประเมินครูผู้สอน   อธิบายฟังเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้เสมอ
บันทึกการเรียนครั้งที่ 11

 วันพุธ ที่ 28 มีนาคม 2561

เวลา 08.30-11.30 น.

_________________________________

ความรู้ที่ได้รับ
  • นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร




  • นำเสนอการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษา
โรงเรียนอนุบาลเฉลิมขวัญ
สถานที่ตั้ง : 57 ถ.ลาดพร้าววังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว 

(1.00 km)กรุงเทพมหานคร 10230





การประยุต์ใช้
     สามารถนำหลักการ แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานศึกษาไปปรับใช้ได้จริงในารทำงานในอนาคต เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นถึงข้อแตต่างของระบบราชการได้ชัดขึ้น

การประเมินผล
  • ประเมินตนเอง   ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน
  • ประเมินเพื่อน   เพื่อนๆให้ความสนใจในเนื้อหาที่เรียน สอบถาม
  • ประเมินครูผู้สอน   อธิบายฟังเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้เสมอ
บันทึกการเรียนครั้งที่ 10

 วันพุธ ที่ 21 มีนาคม 2561

เวลา 08.30-11.30 น.

_________________________________

ความรู้ที่ได้รับ
  • นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร






เทคนิคการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีสำหรับการเป็นผู้บริหาร
ความหมายของบุคลิกภาพ 
ลักษณะทั้งภายนอกและภายในที่รวมอยู่ในตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งและเป็นผลทำให้บุคคลนั้น มีความ
แตกต่างไปจากบุคคลอื่นๆ บุคลิกภาพแบ่งออกเป็น 2 สภาพ ด้วยกันคือ

  • บุคลิกภาพภายนอก สามารถสังเกตเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย 
สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้โดยการฝึกเลียนแบบ และสามารถวัดผลได้ทันที บุคลิกภาพภายนอกที่
สำคัญที่สุด คือ บุคลิกภาพทางกายและวาจา
  • บุคลิกภาพภายใน หมายถึง บุคลิกภาพที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เป็นส่วนที่สัมผัสได้ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลาในการสัมผัส


ประเภทของบุคลิกภาพ
บุคลิกภาพภายนอก คือ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอกของแต่ละคนสามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน แบ่งได้เป็น 
4 หมวด คือ
1. รูปร่างหน้าตา
2. การแต่งกาย
3. กิริยาท่าทาง
4. การพูด
บุคลิกภาพภายใน คือ สิ่งที่อยู่ภายในจิตใจ หรืออุปนิสัยใจคอที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ แก้ไขได้ยาก เช่น
1. ความเชื่อมั่นในตนเอง 2. ความกระตือรือร้น
3. ความรอบรู้ 4. ความคิดริเริ่ม
5. ความจริงใจ 6. ไหวพริบปฏิภาณ
7. ความรับผิดชอบ 8. ความจำ
9. อารมณ์ขัน

แนวทางในการพัฒนาบุคลิกภาพ
- การรักษาสุขภาพอนามัย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มหรือลดผิดปกติ
- ละเว้นการสูบบุหรี่หรือยาเสพติดให้โทษทุกชนิด
- ไม่ดื่มสิ่งของที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน
- พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ วันละ 7-8 ชม.
- รักษาอารมณ์ให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ

การดูแลร่างกาย
- รักษาความสะอาดในช่องปากและฟัน
- ดูแลรักษาเส้นผมและทรงผมให้เรียบร้อยทั้งด้านความสะอาดและรูปทรง
- โกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเกลา ตัดและขริบให้เรียบร้อย
- รักษาผิวพรรณให้สะอาดสดชื่นอยู่เสมอ อย่าให้ผิวแห้งกร้าน
- รักษากลิ่นตัว
- รู้จักการแต่งหน้าแต่พองาม
- ดูแลเล็บมือ เล็บเท้า ให้สะอาดอยู่เสมอ
- ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่สวมใส่ทุกวัน
- ควรมีการเช็คร่างกายเป็นประจำทุกปี
- เมื่อร่างกายมีอาการผิดปกติรีบไปปรึกษาแพทย์
การแต่งกาย
- สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ซักรีดให้เรียบ
- สีสันไม่ฉูดฉาดควรเลือกสีให้เหมาะสมกับรูปร่างและผิวพรรณของตนเอง
- กระเป๋าถือและรองเท้า ควรใช้หนังที่มีคุณภาพดี สีเรียบ สำรวจส้นรองเท้าจัดการซ่อมแซมให้เรียบร้อย
- แต่งหน้าให้แนบเนียน ไม่แต่งเข้มผิดธรรมชาติ เลือกใช้เครื่องสำอางที่มีคุณภาพดี
- เล็บและการทาเล็บ ไม่ควรไว้เล็บยาวจนเกินไป ควรเลือกสีกลาง ๆ อย่าปล่อยให้สีถลอกจะไม่น่าดู
- ผม หมั่นสระให้สะอาด อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แปรงหวีให้เรียบร้อย เลือกทรงผมที่รับกับใบหน้า
- เครื่องประดับ ควรใช้เพื่อเสริมการแต่งกายให้ดูดีขึ้น แต่ไม่ควรใช้เครื่องประดับมากจนเกินไปจนดูสะดุดตารกรุงรังไปหมด
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม
- ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะ
อารมณ์

การพัฒนาบุคลิกภาพด้านการเรียนรู้
ในโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นครูจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์ให้ตรงกับตนเองอยู่เสมอ เช่น
1. การฟัง
2. การอ่าน
3. การเขียน
4. การสังเกต
5. การคิด
6. การทดลอง

การประยุต์ใช้
     สามารถนำหลักการ แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานศึกษาไปปรับใช้ได้จริงในารทำงานในอนาคต เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นถึงข้อแตต่างของระบบราชการได้ชัดขึ้น

การประเมินผล
  • ประเมินตนเอง   ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน
  • ประเมินเพื่อน   เพื่อนๆให้ความสนใจในเนื้อหาที่เรียน สอบถาม
  • ประเมินครูผู้สอน   อธิบายฟังเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้เสมอ